โรงงานรับผลิตสบู่ พร้อมดีลที่ดีที่สุด

การสร้างแบรนด์สบู่ต้องใช้การลงทุนที่แตกต่างกันไป สามารถทำได้ตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่นหรือหลักแสนบาท ขึ้นอยู่กับขนาดและแผนธุรกิจของคุณ โรงงานรับผลิตสบู่แบบ OEM (Original Equipment Manufacturer) จึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสําหรับผู้ประกอบการที่มีงบประมาณจํากัด แต่อยากมีแบรนด์สบู่ของตนเอง เพราะโรงงานประเภทนี้จะมีบริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ การผลิต บรรจุภัณฑ์ และการจัดจําหน่าย โดยลูกค้าสามารถกําหนดรายละเอียดต่างๆ เองได้

ข้อดีของการใช้บริการ OEM คือ สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ง่ายและรวดเร็วกว่าการลงทุนสร้างแบรนด์เอง ประหยัดต้นทุนการผลิตและได้สบู่ที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน เหมาะสําหรับผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักโดยไม่ต้องลงทุนสูง

ต่อไปนี้คือปัจจัยหลัก ๆ ที่คุณต้องคำนึงถึง

1. การพัฒนาผลิตภัณฑ์: ค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนาสูตรสบู่ รวมถึงการทดสอบผลิตภัณฑ์
2. การผลิต: ค่าใช้จ่ายในการผลิต ซึ่งอาจรวมถึงวัตถุดิบ การผลิตแบบ OEM (Original Equipment Manufacturer) หรือการสั่งผลิตจากโรงงาน
3. บรรจุภัณฑ์และการออกแบบ: ค่าใช้จ่ายสำหรับการออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์ รวมถึงโลโก้และวัสดุบรรจุ
4. การลงทุนในการตลาด: ค่าใช้จ่ายสำหรับการทำการตลาด รวมถึงการโฆษณาออนไลน์ การจัดกิจกรรมโปรโมชั่น และการใช้ Influencer
5. การจัดจำหน่าย: ค่าใช้จ่ายในการตั้งค่าช่องทางจำหน่าย ทั้งออนไลน์และออฟไลน์
6. ค่าใช้จ่ายด้านการบริหาร: รวมถึงค่าใช้จ่ายในการจัดการธุรกิจ เช่น ค่าเช่าสถานที่ ค่าบุคลากร และค่าสาธารณูปโภคอื่น ๆ
7. การจดทะเบียนแบรนด์และคุ้มครองลิขสิทธิ์: ค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนแบรนด์ และการปกป้องลิขสิทธิ์ของผลิตภัณฑ์

การลงทุนเริ่มต้นสำหรับการสร้างแบรนด์สบู่ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดของธุรกิจ, คุณภาพของสินค้า, ช่องทางการจำหน่าย และกลยุทธ์การตลาด การวางแผนทางการเงินอย่างรอบคอบและการวิจัยตลาดเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในความสำเร็จของแบรนด์สบู่

อ้างอิง :

• Holly Stanley, “How To Make Soap: Step-By-Step Guide on Making and Selling Soap,” Shopify, November 28, 2023, https://www.shopify.com/retail/how-to-make-soap-turning-a-necessity-into-a-diy-business
• Lisa Price “How to Start a Soap Making Business,” Small biz trends, December 12, 2023, https://smallbiztrends.com/2023/12/how-to-start-a-soap-business.html

การเลือกโรงงานผลิตสบู่ที่เหมาะสมมีหลายปัจจัยสําคัญที่ควรพิจารณา ได้แก่

1. โรงงานที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้องได้มาตรฐาน : การเลือกโรงงานที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้องเป็นการการันตีขั้นแรกว่าสบู่ของคุณนั้นจะได้รับการผลิตภายใต้มาตรฐานที่ดีตามการรับรองจากองค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ผู้บริโภคก็สามารถที่จะมั่นใจได้ว่าสบู่ที่ซื้อไปใช้นั้นได้รับการผลิตในโรงงานที่น่าเชื่อถือมีการรับรองต่าง ๆ ไม่ใช่การผลิตโดยไม่มีมาตรฐานใด ๆ รองรับ
2. โรงงานที่รองรับการผลิตอย่างเต็มรูปแบบ : มีการบริการอย่างรอบด้านเพื่อให้การผลิตสบู่เป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด โรงงานที่มีการบริการอย่างเต็มรูปแบบจะรองรับความต้องการในการผลิตของคุณได้ดีกว่า ทั้งยังมีเรื่องของการออกแบบบรจุภัณฑ์ การออกแบบสัญลักษณ์หรือโลโก้ การวางแผนเรื่องการดำเนินการขาย หากคุณเลือกโรงงานที่รองรับการผลิตอย่างรอบด้านทุกขั้นตอนแล้วนั้นก็จะช่วยให้การผลิตของคุณเป็นไปอย่างง่ายดายยิ่งขึ้น โดยที่คุณไม่ต้องคอยวุ่นวายติดต่อแต่ละฝ่ายเพื่อให้สบู่ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง ทางโรงงานจะช่วยให้สบู่ของคุณออกมาเป็นสบู่ที่พร้อมขายได้เลยทันที
3. โรงงานมีสินค้าตัวอย่าง : มีสูตรที่เราสามารถทดลองก่อนสั่งผลิตจริง ช่วยให้คุณสามารถประหยัดเวลาในการคิดค้นสูตรได้ในกรณีที่ยังไม่แน่ใจว่าจะผลิตสบู่ชนิดหรือประเภทไหน และในขณะเดียวกันคุณยังสามารถนำเอาสินค้าตัวอย่างที่ทางโรงงานมีให้ไปทดลองใช้เพื่อที่จะได้สัมผัสถึงคุณภาพของสบู่ในโรงงานแห่งนั้น ๆ ที่เป็นผู้ผลิตให้กับคุณ เพื่อให้คุณสามารถนำเอาตัวอย่างสบู่นี้มาประกอบการตัดสินใจในการเลือกโรงงานที่จะเป็นผู้ผลิตสบู่ได้
4. โรงงานสะอาด ถูกสุขลักษณะ : แน่นอนว่าเรื่องของความสะอาดนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการเลือกโรงงานที่จะมาผลิตสบู่ หากสินค้าของคุณมีการปนเปื้อน มีผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากการใช้สบู่ที่ไม่สะอาดคงจะเป็นเรื่องใหญ่และส่งผลเสียให้กับแบรนด์และผลิตภัณฑ์เป็นอย่างมากแน่นอน ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาเหล่านี้คุณควรจะเลือกโรงงานที่สะอาดถูกสุขลักษณะมาเป็นผู้ดูแลและผลิตสบู่ให้กับคุณ
5. โรงงานที่ให้ราคาอย่างเป็นธรรมสอดคล้องกับการผลิต : เรื่องของราคานั้นก็สำคัญเช่นเดียวกัน เพื่อให้สินค้าของคุณสามารถออกมาวางขายและคุณสามารถตั้งราคาอย่างเป็นธรรมให้กับผู้บริโภคได้ เจ้าของแบรนด์จึงจะต้องเลือกโรงงานที่พร้อมจะผลิตสบู่ให้ในราคาที่เป็นธรรม ฉะนั้นควรทำการศึกษา เลือกโรงงานที่น่าสนใจแล้วทำการเปรียบเทียบราคาดูว่าที่ไหนเหมาะสมที่สุดในปริมาณที่คุณต้องการผลิตในรูปแบบของแบรนด์ที่คุณได้วางเอาไว้

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ควรพิจารณาเพิ่มเติม เช่น

• ประสบการณ์และชื่อเสียง: พิจารณาโรงงานที่มีประสบการณ์ในการผลิตสบู่มาอย่างยาวนาน และมีชื่อเสียงที่ดีในอุตสาหกรรมนี้
• ความสามารถในการผลิตตามความต้องการ: หากคุณต้องการสบู่ที่มีสูตรเฉพาะหรือการออกแบบที่เฉพาะเจาะจง ควรเลือกโรงงานที่สามารถปรับแต่งการผลิตได้ตามความต้องการ
• การบริการลูกค้า: สื่อสารกับโรงงานและสังเกตว่าในเรื่องการตอบสนองและบริการลูกค้าอย่างไร การมีทีมงานที่พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยเหลือเป็นสิ่งสำคัญ
• ความสามารถในการจัดส่ง: ตรวจสอบว่าโรงงานสามารถผลิตและจัดส่งสินค้าได้ภายในเวลาที่ต้องการหรือไม่
• ราคาและเงื่อนไขการชำระเงิน: ศึกษาเรื่องราคาและเงื่อนไขการชำระเงินเพื่อให้แน่ใจว่าสอดคล้องกับงบประมาณและแผนการเงินของคุณ

การเยี่ยมชมโรงงานด้วยตนเองและการพูดคุยโดยตรงกับผู้ผลิตสามารถช่วยให้คุณเข้าใจถึงความสามารถและมาตรฐานของโรงงานได้ดียิ่งขึ้น และอย่าลืมขอดูตัวอย่างผลิตภัณฑ์ เพื่อประเมินคุณภาพด้วยตนเองก่อนตัดสินใจ และช่วยให้ได้สบู่ที่มีคุณภาพ ตรงกับความต้องการ และสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจสบู่ในระยะยาว

อ้างอิง :

• “What do the best manufacturing companies have in common?,” Geniuserp, January 25, 2024, https://www.geniuserp.com/blog/what-do-the-best-manufacturing-companies-have-in-common
• “Choosing a Production Factory for Your Soap Business,” Global brands magazine, January 25, 2024, https://www.globalbrandsmagazine.com/choosing-a-production-factory-for-your-soap-business

ก่อนที่คุณจะเริ่มผลิตและสร้างแบรนด์สบู่นั้น เจ้าของแบรนด์จะต้องดูกลุ่มลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการขายก่อน จากนั้นจึงเลือกผลิตสบู่ให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้า ซึ่งปัจจุบันนี้สบู่มีมากมายหลายรูปแบบ โดยประเภทของสบู่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตอนนี้ ได้แก่

• สบู่บำรุงผิวหรือสบู่ผิวขาว : เป็นหนึ่งในประเภทสบู่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีการแข่งขันทางการตลาดที่ค่อนข้างสูง แต่ละแบรนด์จึงต้องคิดค้นสูตรสบู่ออกมาให้หลากหลายเพื่อแย่งพื้นที่ทางการตลาด เช่น สบู่เพื่อการบำรุงผิวให้ขาวเนียนนุ่มด้วยวิตามินซี กลูต้า หรือคิวเท็น สบู่เพื่อการดูแลรักษาสิว สบู่เพื่อลดริ้วรอย ฯลฯ
• สบู่แอนตี้แบคทีเรีย : วิถีชีวิตของผู้คนในปัจจุบันนี้เริ่มมีการหันมาดูแลสุขอนามัยพื้นฐานกันมากขึ้น ทำให้สบู่ประเภทช่วยยับยั้งแบคทีเรีย และตอบโจทย์ต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคได้มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นทั้งสบู่ก้อน สบู่เหลว หรือแม้แต่ครีมอาบน้ำ
• สบู่สมุนไพร : เป็นอีกหนึ่งประเภทสบู่ที่ได้รับความนิยมมาโดยตลอดด้วยความที่สมุนไพรเป็นสิ่งที่หลายคนคุ้นเคย มีเอกลักษณ์ของกลิ่นและสี เช่น สบู่มะขามเปียก สบู่ขมิ้นชัน สบู่น้ำนมข้าว สบู่ทนาคา รวมไปถึงข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หรือสมุนไพรอื่น ๆ อีกมากมาย
• สบู่ออร์แกนิก : สบู่ประเภทนี้ทำมาจากส่วนผสมจากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีที่รุนแรง และมักไม่ทดลองกับสัตว์ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย หรือต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
• สบู่ผสมสครับ : สบู่ที่มีส่วนผสมของส่วนผสมที่ช่วยในการขัดผิว เช่น เมล็ดผลไม้หรือเปลือกถั่ว เหมาะสำหรับการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและทำให้ผิวเนียนนุ่ม

ดังนั้น ก่อนการเลือกผลิตสบู่ ควรศึกษากลุ่มเป้าหมายและความต้องการของลูกค้า เพื่อเลือกประเภทของสบู่ที่เหมาะสมและตรงใจมากที่สุด

อ้างอิง :

• The Story Thailand “ตลาดสบู่ ลื่นไถลไปไกล เติบโตอย่างต่อเนื่อง,” The story Thailand, July 08, 2021, https://www.thestorythailand.com/08/07/2021/33784
• “The Soap Making World: Innovations And Trends In The Soapmaking Industry,” Soaptec, January 25, 2024, https://www.soaptec.biz/en/innovations-and-trends-in-the-soap-making-industry/

การวางแผนสร้างแบรนด์สบู่เพื่อให้ประสบความสำเร็จต้องดำเนินการอย่างมีระบบและครอบคลุมหลายด้าน ดังนี้:

• การวิจัยตลาดและกลุ่มเป้าหมาย: ทำความเข้าใจตลาดสบู่ในปัจจุบัน รวมถึงกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการ ศึกษาความต้องการ ความชื่นชอบ และปัญหาที่ผู้บริโภคต้องการในการเลือกใช้สบู่
• สร้างเอกลักษณ์ให้เป็นที่จดจำและแตกต่าง : ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง เจ้าของแบรนด์จึงต้องสร้างแบรนด์ให้มีจุดเด่นหรือ Unique Selling Proposition (USP) ที่ทำให้แบรนด์สบู่ของคุณแตกต่างจากคู่แข่ง เช่น สรรพคุณเฉพาะ แบรนด์ดิ้งจะต้องมีเอกลักษณ์ เป็นที่จำจดได้ง่าย และมีแพคเกจจิ้งสะดุดตา
• ผลิตสินค้าที่ดี มีคุณภาพ : เพื่อคงฐานลูกค้าเก่าและสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้สบู่ของคุณประสบความสำเร็จได้ นั่นก็คือการที่สินค้าของคุณมีคุณภาพ เมื่อสินค้าคุณภาพดีผู้ใช้ก็ติดใจ เกิดการซื้อซ้ำเป็นการสร้างฐานลูกค้าที่ยั่งยืนและก่อให้เกิดการบอกต่อเพื่อเรียกลูกค้าใหม่ ๆ ให้เข้ามาลองใช้สินค้า จนทำให้เกิดกลุ่มลูกค้าใหม่ขึ้นมา
• วางแผนการตลาดให้ดีและตรงกลุ่มเป้าหมาย : การวางแผนกลยุทธ์การตลาดที่ดีและทำให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย นอกจากจะช่วยให้คุณหาทางนำธุรกิจเข้าไปหากลุ่มลูกค้าให้ได้มากที่สุดแล้ว หากคุณวางแผนการและใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบ คุณยังสามารถวัดผลลัพธ์ธุรกิจได้ว่าอะไรที่ควรปรับปรุง อะไรที่ควรทำต่อ รู้และสามารถกำหนดทิศทางโดยรวมของแบรนด์ได้อีกด้วย
• ทำการตลาดอย่างต่อเนื่องและชาญฉลาด : แน่นอนว่าช่องทางการโฆษณาสินค้าที่ดีที่สุดในปัจจุบันก็คือ ช่องทางการสื่อสารออนไลน์ต่าง ๆ ที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายเห็นผลิตภัณฑ์แล้วเกิดความสนใจขึ้นมาได้ ซึ่งแพลตฟอร์มต่าง ๆ ยังมีอัลกอริทึมที่จะช่วยเจาะกลุ่มเป้าหมายการโฆษณาให้กับแบรนด์ของคุณได้อีกด้วย
• การวิเคราะห์และปรับปรุง : ตรวจสอบผลลัพธ์จากกลยุทธ์ต่างๆ และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนแผนหรือกลยุทธ์ตามสถานการณ์และตอบสนองต่อความต้องการของตลาด รวมถึงรับฟังคำติชม และปรับปรุงผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของลูกค้า เพื่อสร้างความภักดีและความไว้วางใจในแบรนด์

การสร้างแบรนด์สบู่ที่ประสบความสำเร็จต้องใช้เวลา ความพยายาม และการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ควรมีการวางแผนอย่างรอบคอบและมีการวิจัยตลาดเพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์การตลาดของคุณตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้

อ้างอิง :

• Dave Lavinsky, “How to Start a Soap Business,” Grow think, January 25, 2024, https://www.growthink.com/businessplan/help-center/how-to-start-a-soap-business

อ้างอิง :

• “เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา,” fda.moph.go.th

สบู่ถือเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่สำคัญในขั้นตอนของการบำรุงผิว ไม่ว่าจะผิวหน้า หรือผิวกาย เพราะผิวของเราจะได้รับการบำรุงได้อย่างล้ำลึกที่สุดก็เมื่อได้รับการทำความสะอาดขจัดเอาความมัน และผลภาวะต่าง ๆ ออกไปแล้วนั่นเอง

โดยปัจจุบันที่ผู้คนหันมาใส่ใจในเรื่องของการใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ได้จากธรรมชาติเป็นหลัก สบู่ก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีการปรับเอาส่วนผสมที่ได้จากธรรมชาติมาเป็นส่วนผสมหลัก ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่คนเริ่มมาสนใจเทรนด์ที่เรียกว่า Clean Beauty กันมากยิ่งขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้แล้วก็ยังมีเทรนด์ใหม่ที่นอกจากสบู่เพื่ออาบน้ำล้างตัวแล้วก็ยังมีการผลิตผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ให้ออกมาในรูปแบบของก้อนสบู่อีกด้วย เช่น แชมพู นั่นเอง

ลองมาดู ส่วนผสมจากธรรมชาติที่กำลังเป็นที่นิยมในตลาดสบู่ และสามารถช่วยให้สบู่ของคุณเป็นที่สนใจและติดเทรนด์ได้

1. สมุนไพร : ในการผลิตสบู่ โดยเฉพาะสบู่ทำมือ หรือ Hand made soap นั้นมีการนิยมเอาสมุนไพรไปเป็นส่วนประกอบมากยิ่งขึ้น เช่นการนำสมุนไพรต่างๆ มาตากให้แห้งจากนั้นบดละเอียดใส่ลงไปในขั้นตอนของการผลิตเพื่อให้สบู่สามารถทำหน้าที่ในการขัดผิว และขจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วออกไปได้ หรืออาจใส่สมุนไพรลงไปเป็นชิ้น ๆ เป็นการหั่นท่อน หรือใส่ใบทั้งใบลงไปเพื่อเป็นการเพิ่มผิวสัมผัส กลิ่น หรือช่วยบอกให้รู้ว่าสบู่ก้อนนั้นมีส่วนผสมของสมุนไพรชนิดไหนอยู่โดยสมุนไพรที่เป็นที่นิยมก็มีทั้งสมุนไพรทั้งไทย และต่างประเทศ เช่น โรสแมรี่ ลาเวนเดอร์ ตะไคร้ ใบมะกรูด รวมไปถึงดอกไม้ชนิดต่าง ๆ อย่างกุหลาบ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการบำรุงผิวและช่วยในการรักษาสิวหรือปัญหาผิวอื่น ๆ ด้วย
2. น้ำมันหอมระเหย : การเอาส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยที่ได้จากการสกัดจากสารสกัดธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการผลิตสบู่นั้นก็เพื่อให้สบู่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่องของความหอมและการผ่อนคลายได้ เป็นการเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในขณะที่ใช้ผลิตภัณฑ์ในการล้างหน้า หรือชำระล้างร่างกายสำหรับพืชที่นิยมนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย เช่น ยูคาลิปตัส เลมอน ลาเวนเดอร์ โรสแมรี่ พิมเสน สะระแหน่ ตะไคร้ ข้าว และอื่น ๆ อีกมากมาย
3. น้ำมันสกัดจากธรรมชาติ : น้ำมันมีส่วนสำคัญในการช่วยให้ผิวชุ่มชื้น นุ่มลื่น ไม่แห้งกร้าน น้ำมันที่นิยมนำมาใช้ในการผลิตสบู่ก็มีมากมายหลากหลาย แต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไปโดยน้ำมันที่ได้จากการสกัด เช่น น้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันอะโวคาโด น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว น้ำมันรำข้าว น้ำมันจากดอกดาวเรือง รวมไปถึง เนยโกโก้ หรือที่เราอาจจะคุ้นหูในชื่อ Cocoa Butter ซึ่งเป็นการสกัดเอาไขมันจากเมล็ดโกโก้ก็เป็นอีกส่วนผสมหนึ่งที่จะช่วยรักษา และคืนความชุ่มชื่นให้กับผิวได้เป็นอย่างดี
4. โคลนธรรมชาติ : โคลนที่ได้จากธรรมชาตินั้นมีคุณสมบัติในการบำรุงผิวอยู่มากมาย เพราะอุดมไปด้วยแร่ธาตุ และวิตามินต่าง ๆ มีคุณสมบัติสำคัญอย่างช่วยขจัดความมันส่วนเกิน และดูดเอาสิ่งสกปรกที่ฝังแน่นบนผิวออกมาโดยโคลนหรือดินธรรมชาติที่ได้รับความนิยม และเราน่าจะคุ้นหูกันเป็นอย่างดีก็คือ โคลนจากทะเล Dead Sea หรือโคลนชมพูจากประเทศฝรั่งเศส
5. ผลิตภัณฑ์จากนมและของเหลวอื่น ๆ : ถือเป็นอีกหนึ่งส่วนผสมที่สำคัญในการรวมส่วนผสมเข้ากับน้ำมันที่ใช้ในการทำสบู่ โดยมีคุณสมบัติในการบำรุงผิวและทำให้ผิวนุ่มสำหรับผลิตภัณฑ์จากนมและของเหลวอื่น ๆ ที่ใช้ผสมในสบู่ โดยส่วนมากแล้วจะใช้น้ำกลั่นบริสุทธิ์ เช่น น้ำนมแพะ น้ำนมมะพร้าว น้ำนมข้าวโอ๊ต ชา กาแฟ เป็นต้น เพื่อเพิ่มในส่วนของสรรพคุณและเนื้อสัมผัสได้
6. วิตามินและสารสกัดจากผลไม้หรือพืช : สบู่ที่มีส่วนผสมของวิตามินและสารสกัดจากผลไม้หรือพืชเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะมีคุณสมบัติในการบำรุงผิวพรรณ ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีและขาวใสโดยส่วนประกอบที่เป็นที่นิยมอย่างมาก เช่น วิตามิน E, วิตามิน C, สารสกัดจากสาหร่าย, สารสกัดจากอโลเวร่า, สารสกัดจากแตงกวา, หรือน้ำมันสกัดจากเมล็ดองุ่น ซึ่งมีวิตามินและแร่ธาตุที่ดีต่อผิว

การผสมผสานส่วนผสมเหล่านี้อย่างเหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยให้สบู่ของคุณมีคุณสมบัติที่โดดเด่นเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความน่าสนใจและเป็นที่จดจำในตลาดสบู่ที่มีการแข่งขันสูงด้วย

อ้างอิง :

• “Natural Soap Ingredients for Cold Process Soap Making,” Lovely greens, September 20, 2013, https://lovelygreens.com/natural-soapmaking-for-beginners
• Lauren Thomann, “21 Creative Handmade Soap Recipes for Beginners,” The spruce crafts, September 16, 2022 https://www.thesprucecrafts.com/basic-soap-making-recipes-517179